17/12/55

เที่ยวพะเนินทุ่ง ตอนที่ 2


    หลังจากหลับสบายเมื่อคืนนี้ ตื่นเช้ามาพร้อมกับอากาศสดชื่น เสียงจากเพื่อนร่วมแคมป์จากเต้นต่างๆ พูดคุยเสียงดังถี่ขึ้น คงจะถึงเวลาไปดูทะเลหมอกกันแล้ว แต่ละคนจัดการภารกิจส่วนตัวแล้วก็ทยอยเดินไปชมทะเลหมอกซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก




     ขับรถเลยต่อไปที่บริเวณจุดชมทะเลหมอก กม.36 ยิ่งสายทะเลหมอกก็ยิ่งดูได้ชัดและมากขึ้น ทุกๆนาทีทะเลหมอกก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยตามสภาพของลมที่พัดผ่าน ยิ่งดูยิ่งสวย แต่ก็ต้องรีบลงมาเพื่อเก็บข้าวของเดินทางลงตามเวลาที่ทางอุทยานฯ กำหนด







                  น้ำตกป่าละอู


   เมื่อลงจากพะเนินทุ่ง ได้แวะไปเที่ยวที่น้ำตกป่าละอู ก่อนที่จะเดินทางกลับ ลัดเลาะมาตามเส้นทางขึ้นเขาบ้าง ผ่านไร่สับปะรดบ้าง กว่าจะมาทะลุน้ำตกได้เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน



    น้ำตกชั้นที่ 4 นับว่าเป็นชั้นที่สวยที่สุด จากทั้งหมด 15 ชั้น น้ำตกป่าละอู อยู่ทางตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในท้องที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคิรีขันธ์ ห่างจากหัวหินประมาณ 60 กิโลเมตร ใกล้หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.3 (ห้วยป่าเลา)



     ออกจากน้ำตกป่าละอู จะเดินทางกลับ ระหว่างทางเจอช้างป่าเดินข้ามถนนมาก็เลยหยุดรถดับเครื่อง จอดอยู่ห่างพอสมควร ช้างตัวใหญ่เดินตามถนนมาเรื่อยๆ ตอนแรกก็คิดว่ามันคงจะเดินผ่านไป แต่ที่ไหนได้มันตรงรี่เข้ามาหารถเรา พร้อมกับเอางาแทงผ้าคลุมของท้ายรถงัดขึ้น ทุกคนตกตะลึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ถ้าไม่รีบทำอะไรสักอย่างมันคงรื้อกระจุยแน่ ทันใดนั้นลูกชายที่ขับรถก็รีบสตาร์ทรถออกตัวไปทันที เล่นเอาขวัญหนีตีฝ่อไปตามๆกัน เมื่อรอดพ้นมาได้ก็พูดติดตลกเป็นโจ๊กฮากันมาตลอดทาง "...กูว่าแล้วเห็นแต่ขี้ช้างเถอะ อย่าเจอช้างขี้ก็แล้วกัน..." เกือบแล้วไมละ

เที่ยวพะเนินทุ่ง ตอนที่ 1


     หลังจากเตรียมตัว ศึกษาหาข้อมูล จากเน็ต สอบถามผู้ที่เคยไปเที่ยวพะเนินทุ่งมาแล้ว ซึ่งต่างก็บอกว่าสวยกันทั้งนั้น ส่วนจะจริงเท็จแค่ไหน สวยจริงดั่งคำร่ำลือหรือไม่ต้องไปดูด้วยตาซะแล้ว สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริงไหม ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เดินทางซะที หลังจากเลื่อนการเดินทางมาแล้วหนหนึ่งด้วยความไม่พร้อม การเดินทางมาลงเอยที่กลางเดือนธันวาคม ช่วงวันที่ 15-16 ทุกอย่างพร้อม ลุย...



   พอไปเห็นด้วยตาแล้ว บอกได้เลยครับว่าสวยจริงดั่งเขาว่า แม้การเดินทางไปชมความงามนี้จะค่อนข้างลำบาก แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้พบเห็น





 ไปถึงที่ทำการอุทยาน 10.50 น. นำใบจองที่จะไปกางเต้นที่พะนินทุ่งแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ลงทะเบียน จากที่ทำการอุทยานฯ ไปถึงพะเนินทุ่งแคมป์ ระยะทาง 50 กิโลเมตร




 อุโมงค์ต้นไม้ เส้นทางช่วงที่จะขึ้นไปแคมป์บ้านกร่าง


    รถทุกคันที่จะขึ้นไปกางเต้นที่พะเนินทุ่ง จะต้องมารออยู่ที่นี่ ถ้าขึ้นมาก่อนเวลา 13.00 น เพราะการขึ้นพะเนินทุ่งเขาจะให้ขึ้นเป็นเวลา ช่วงเช้า 05.00-09.30 น. ช่วงบ่าย 13.00-15.00 น. เราพักรับประทานอาหารเที่ยงที่นี ก่อนที่จะขึ้นพะเนินทุ่งตามเวลาที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ กำหนด



    ภายในอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแคมป์บ้านกร่าง ก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่  ภาพถ่ายสัตว์นานาชนิดที่มีอยู่ที่นี่ รวมถึงโครงกระดูกสัตว์ที่ตายแล้ว มีร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว


  เส้นทางที่จะขึ้นพะเนินทุ่ง เมื่อผ่านลำธาร ก็จะมีผีเสื้อเกาะเป็นกลุ่มให้ถ่ายรูปเป็นระยะ




  เมื่อขึ้นไปถึงก็ต้องรีบจับจองหาที่เหมาะกับการกางเต้น เพราะช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะ ขนข้าวขนของมาเพียบยังกะจะย้ายบ้าน




    เมื่อกางเต้นเสร็จก็ออกสำรวจพื้นที่พร้อมกับเก็บภาพสถานที่ ความสวยงามของธรรมชาติเก็บภาพความประทับใจไว้ให้ได้มากที่สุด ธรรมชาติมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ชวนให้ค้นหา





   เย็นย่ำคำลงก็เตรียมหุงหาอาหารมื้อคค่ำ ก่อนที่แสงตะวันจะลาลับยอดเขาไป มาถึงตรงนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ายิ่ง มีหลายรสชาติ หลากหลายรูปแบบให้พบเจอ


 
    ตกกลางคืน อากาศเย็นสบาย แหงนมองท้องฟ้าเห็นหมู่ดาวเต็มไปหมด แถมยังได้เห็นฝนดาวตกอีกด้วย ล้มตัวลงนอนก็มีเสียงหริ่งเรไรขับกล่อม มันจะสุขอะไรป่านนี้ หลับ....

10/12/55

ปรานบุรี




     วนอุทยานปราณบุรี  เป็นป่าชายเลนพื้นที่ 400 ไร่ เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่สำคัญทางธรรมชาติ มีพันธุ์ไม้หลายชนิดตลอดจนระบบนิเวศของป่าชายเลนที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งให้ความรู้และความเพลิดเพลินเหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนได้โดยรอบ เป็นสะพานไม้ยกระดับ ข้างทางเดินจะมีป้ายบอกเรื่องราวและชนิดของพันธุ์ไม้มีท่าเรือขนาดเล็กเชื่อมกับทางเดินไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะล่องเรือชมความงามตามธรรมชาติโดยทางน้ำ  
 









       เขากะโหลก  มีทัศนียภาพงดงามหาดทรายยาวขาวสะอาด  มีฉากหลังเป็นภูเขา  เป็นท้องทะเลที่น่ามอง  ชวนให้เกิดจินตนาการ อีกด้านหนึ่งของเขากะโหลกเป็นอ่าวสำหรับให้ชาวประมงนำเรือมาจอดหาปลา  สถานที่ของเขากะโหลกนี้ยังปรับปรุงให้เป็นวนอุทยานด้วยมีชื่อว่า  วนอุทยานท้าวโกษา  สำหรับใช้เป็นสถานที่พักผ่อน  ให้กับประชาชนของชุมชนแถวนั้น และนักท่องเที่ยวผู้เดินทางมาเยือน ช่วงถนนเลียบชายทะเลจากเขากะโหลกไปจนถึงปากน้ำปราณ จะมีที่พัก โรงแรม รีสอร์ทตลอดสายไว้สำหรับผู้ที่รักการเดินทางต้องการพักผ่อนเลือกได้ตามกำลังทรัพย์เลยทีเดียว  
                                                                                                                 




 


          ศาลเจ้าแม่ทับทิมทอง ตั้งอยู่บนยอดเขาเจ้าแม่ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก ซึ่งเมื่อมองลงมาจะเห็นแม่น้ำปราณบุรีและหมู่บ้านปากน้ำปราณได้โดยทั่ว ภายในศาลประดิษฐ์รูปปั้นเจ้าแม่เทียนโหวเซี้ยบ้อ หรือเจ้าแม่ทับทิมทองซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือของชาวปากน้ำปราณ จุดสะดุดตาของที่นี่คือรูปปั้นจระเข้ขนาดใหญ่ที่เชิงผาหน้าศาล








   มาปราณบุรีทั้งที ไม่ได้ทานหมึกแดดเดียวของที่นี่ไม่ได้เลย ก็เพราะหมึกแดดเดียวของเขาอร่อยมากๆ เนื่องจากคนที่นี่เขามีอาชีพประมง และเป็นแหล่งจับปลาหมึกที่มีขนาดใหญ่อีกด้วย ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะพบการตากปลาหมึกอยู่ทั่วไป


  อำเภอสามร้อยยอด มีเรื่องเล่ากันว่าที่นีเคยเป็นทะเลมาก่อน มีเกาะใหญ่น้อยอยู่มากมาย ทุ่งสามร้อยยอดมีพื้นที่กว้างใหญ่ มีน้ำขังและน้ำท่วมตลอดทั้งปี มีศูนย์ศึกษาธรรมชาติทุ่งบัวแดง





ช่วงวันทำงานแทบจะไม่เห็นเดือน เห็นตะวัน เมื่อมีวันหยุดได้พักผ่อน เหมือนเห็นสวรรค์อยู่แค่เอื้อม

      เมื่อพูดถึง ทะเล ชายหาด แต่ละแห่งจะมีเสน่ห์และความสนใจในแต่ละจุดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับมุมมองและความต้องการของผู้เที่ยวชม ว่าจุดใหญ่ใจความของการไปเที่ยวทะเล ชายหาด แต่ละครั้งด้วยเหตุผลใดเป็นสำคัญ
      แต่ถ้าเลือก ทะเล ชายหาด ที่ปราณบุรี ก็จะได้ความเงียบสงบ ความเป็น
ส่วนตัวสูง เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนยังไม่พลุกพล่าน สภาพโดยทั่วไปยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก